วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

One Fine Day (Session I)

ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นเช่นไร ติดเคอร์ฟิว ไม่ติดเคอร์ฟิว ปูเป้เลยขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ นะคะ จะได้ไปเช้า..เย็นกลับได้แบบ Chill..Chill ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังค่า ^^


เที่ยวออกรสที่สระบุรี


สระบุรี คือ เส้นทางแห่งความสุขของคนที่ชอบลิ้มลองบรรยากาศสไตล์คันทรี่และรสชาติความอร่อย ซึ่งมีให้เลือกอิ่มเอมตลอดเส้นทาง กลิ่มหอมความยวนใจของอาหารอันโอชะ บวกกับรสชาติและสุนทรียภาพของอาหารตาที่เต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ทำให้หลายคนชอบเดินทางตามกลิ่นหอมนั้นมาถึงที่นี่...


ออกเดินทางกันแต่เช้า แสดงแดดอ่อน ๆ อบอุ่นกำลังดี ขับรถมาบนถนนเส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี เลี้ยวขวาไปทางนครราชสีมา ตรงยาวไปตามถนนมิตรภาพ จะเห็นป้ายเขื่อนป่าสักอยู่ลิบ ๆ จากถนนใหหญ่เลี้ยวตามป้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตามถนนมวกเหล็ก-วังม่วง ระหว่างทางจะผ่านอุโมงค์ต้นไม้ ที่ขึ้นร่มครึ้มปกคลุมสองข้างทาง อุโมงค์ต้นไม้นี้จะโค้งไปตามถนน พาเราไปสู่ขุนเขาอันเขียวขจี อากาศที่นี่บริสุทธิ์จนอดใจไว้ไม่ไหว ต้องลดกระจกลงรับลมเย็น เมื่อถึงหลักกิโลที่ 18-19 จะเจอป้ายใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ทางขวามือ ไร่ปภัสรา กว้างใหญ่ไพศาลกินพื้นที่กว่าเขาสองลูก ส่วนหนึ่งเป็นไร่องุ่นที่ปลูกเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา ส่วนใครที่หลงใหลความงดงามของท่วงท่าอันองอาจและสง่างามของม้าที่ไร่นี้ก็มีบริการขี่ม้าสำหรับผู้ที่ขี่ไม่เป็นเลย รวมทั้งผู้ที่มีความชำนาญระดับมืออาชีพ ฟาร์มม้าของที่นี่ถือเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย อีกด้านยังมีคอกเลี้ยงนกกระจอกเทศตัวใหญ่ พันธุ์คอสีเทา เดินคอยาวสวนสนามกันไปมาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม สำหรับใครที่อยากลองของแปลกขี่นกกระจอกเทศเล่นอาจจะต้องอดใจรอสักหน่อย เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงฝึกให้สามารถขี่เล่นได้ ของอร่อยขึ้นชื่อที่พลาดไม่ได้มาแล้วต้องลองชิม คือ น้ำองุ่นสด ๆ รสชาติเยี่ยม หรือพายองุ่นที่กรอบนอกนุ่มในรสชาติกลมกล่อมกำลังดี ใครมาเยื่อนที่นี่จะต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากที่บ้านกันทุกคน


เมื่อถึงเวลาใกล้เที่ยงย้อนกลับมาทางถนนมิตรภาพ อำเภอปากช่อง กม.ที่ 148 มีร้านอาหารดังน่าลิ้มลองอยู่อีกร้าน ชื่อ ร้านข้าวสามสี ไม่ต้องกลัวหลงหรือนั่งนับหลักกิโลเพราะจะมีป้ายใหญ่คอยบอกตลอดทาง ใครที่ชอบร้านอาหารบรรยากาศธรรมชาติ ต้องชอบร้านนี้ เพราะทางร้านเน้นความร่มเย็นของแมกไม้เหมือนกำลังทานข้าวอยู่ในสวน ข้างบ้านมีมุมสวย ๆ ไว้ให้ถ่ายภาพ มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแบบไทยอย่างข้าวราดแกงที่พิเศษจะเป็นข้าวสวยที่มีสามสี มีข้าวหอมนิล ข้าวกล้องแดง และข้าวหอมมะลิผสมกันได้วิตามินครบถ้วน หอมกรุ่น นุ่มละมุน เมื่อทานคู่กับน้ำพริกกะปิรสแซบ แกล้มกับผักต้ม มะเขือยาวหั่นบาง ๆ ชุบแป้งทอด ซดน้ำแกงเลียงที่ปรุงอย่างถึงเครื่องใส่กุ้งตัวโต และไข่ยัดไส้ รับประทานแล้วอร่อยเหนือคำบรรยาย เครื่องดื่มขึ้นชื่อคือน้ำทับทิมคั้นสด ที่รักษาได้สารพัดโรค มาที่นี่อย่าลืมแวะเข้าห้องน้ำที่มีสะพานไม้ยาวเชื่อมกับตัวร้าน บรรยากาศยังคงไม่ทิ้งแนวคิดแบบเดิม คือ ใกล้ชิดธรรมชาติ รักษาสิ่งแวดล้อมมีที่นั่งรอคิวเข้าห้องน้ำแบบเก่ ผนังประดับด้วยกระจกสีตกแต่งให้ดูโปร่ง บริเวณอ่างล้างมือ

พักเที่ยงกันก่อนนะคะ >o< แล้วปูเป้จะรีบนำภาคต่อช่วงบ่ายของที่เที่ยวออกรสมาให้อ่านต่อค่ะ คอยติดตามนะคะว่าจะออกรสแค่ไหน ^^